Tuesday, June 3, 2014

โรคนิ่วในถุงน้ำดี และการบำบัด

โรคนิ่วในถุงน้ำดี และการบำบัด

 



จัดทำโดย อ.หมอสุชาติ ภูวรัตน์
นธ.เอกบาลีประโยค 1-2
(อดีตพระธรรมทูตต่างประเทศ)
B.S. Engineering Design Tech.
 B.A. ศาสนศาสตร์บัณฑิต
B.S. Computer Information Systems
B.TM.  พทย์แผนไทยบัณฑิต
สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ
บ.ภ.พท.ว.พท.ผ.พท.น.
ครูแพทย์แผนไทย 4 ด้าน
ศูนย์การแพทย์แผนไทยภูเก็ต
ทำเพื่อการศึกษาและประโยชน์แก่ผู้ชม


สมุนไพรบำบัดโรค นิ่วในถุงน้ำดี
ขนานที่ ๑
(ของ อจ. สุทธิวัสส์ คำภา)
ให้ใช้เหล้าขาว 1 เป็ก ผสมกับน้ำมะนาว 1 ลูก ผสมกันให้ดี แล้วดื่มก่อนนอน ก็จะเมาหลับไปเลย เช้าก็จะถ่ายก้อนนิ่วออกมา
ขนานที่ ๒
(ของคุณวรพงษ์ สุคนธวณิช)
ขั้นแรก ให้อดอาหาร 2 วัน ดื่มแต่น้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจัด เช่น แอปเปิ้ลเขียว สับปะรดปั่น แยก กาก หรือเอามาตำ หรือปั่นแล้ว กรองกากออก เอาน้ำดื่มวันละหลายๆ แก้ว แทนอาหาร น้ำผลไม้เปรี้ยวจะทำให้ก้อนนิ่วอ่อนตัวลง

ขั้นที่สอง ให้ทำ Detox (สวนทวาร) วันละ 2 ครั้ง เพื่อเอาของเสียในลำไส้ออกให้หมด

ขั้นที่สาม วันที่ 2 หลัง 6 โมงเย็น ไม่ต้องดื่มกินอะไร หลัง 3-4 ทุ่ม ให้ดื่มน้ำมันมะกอก (น้ำมันอื่นก็พอได้ ที่กินง่ายหน่อย เช่น น้ำมันมะพร้าวหีบเย็น น่าจะดี) ประมาณ 250 ซี.ซี. แล้วดื่มน้ำมะนาวตามอีก 250 ซี.ซี. แล้วนอนตะแคงขวานิ่งๆ 2 ชั่วโมง ท้องไส้จะปั่นป่วน พยายามนอนให้หลับ ตี 3 ก็จะอยากเข้าห้องน้ำ ก็พยายามกลั้นไว้ก่อน จนทนไม่ได้ หรือ ตี 5 แล้วค่อยลุกขึ้นมา ดื่มน้ำสัก 2 แก้ว หรือน้ำมะพร้าวอ่อนสักลูก เพื่อเร่งถ่ายอุจจาระและนิ่วออกมา ก้อนนิ่วจะลอยน้ำเพราะเป็นไขมัน สีจะเข้ม ดำหรือเขียวเข้ม ลื่น เตรียมตะเกียบไว้คีบเก็บไว้ดูเล่น หรืออวดเพื่อนๆ ได้เลย ถ้ายังไม่หมดก็ทำกินอีกตามขั้นตอน

  สมุนไพรลูกใต้ใบ
สมุนไพรลูกใต้ใบ หรือ มะขามป้อมดิน หญ้าใต้ใบ หญ้าใต้ใบขาว ไฟเดือนห้า หมากไข่หลัง จูเกี๋ยเช่า
รักษาไวรัสตับอักเสบบี โรคเบาหวาน ขับนิ่ว รักษานิ่วในถุงน้ำดี สามารถแก้เริม ไข้หวัดใหญ่ ไข้จับสั่น แก้ร้อนใน ปวดข้อ ปวดเอว ปวดเมื่อย บำรุงตับ แก้ฝี รักษาอาการดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง ทำลายพิษจากเหล้า
สาเหตุของการเกิดนิ่วในไตและถุงน้ำดี
          ถุงน้ำดีเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่เก็บน้ำดีและทำให้น้ำดีเข้มข้น ซึ่งอยู่ใต้ตับบริเวณชายโครงข้างขวา ตับทำหน้าที่ผลิตน้ำดีและส่งมาเก็บที่ถุงน้ำดี เมื่อกินอาหาร ถุงน้ำดีก็จะบีบตัว ทำให้น้ำดีไหลออกจากถุงสู่ท่อทางเดินน้ำดีและลำไส้เล็กตามลำดับ เพื่อทำการย่อยและดูดซึมอาหาร โดยเฉพาะอาหารประเภทไขมัน
          โรคของถุงน้ำดีที่พบบ่อยคือ โรคถุงน้ำดีอักเสบซึ่งเกิดจากนิ่วในถุงน้ำดี ในทางระบาดวิทยาพบว่าผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปที่มีรูปร่างอ้วน มีลูกหลายคน มีโอกาสเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีมากกว่าผู้อื่น และพบมากในคนตะวันตก เช่น ยุโรป อเมริกัน โดยเชื่อกันว่านิ่วในถุงน้ำดีเกิดจากความผิดปรกติของระดับไขมันและสารบาง ชนิดในน้ำดี ทำให้ไขมัน (คอเลสเตอรอล) ที่ละลายอยู่ในน้ำดีตกตะกอนเป็นก้อนเล็กๆ และสะสมเป็นก้อนโตขึ้น กลายเป็นนิ่วชนิดไขมัน นิ่วบางชนิดอาจเกิดจากมีการทำลายเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ และยังมีสาเหตอื่นๆ อีกที่เกี่ยวข้องและทำให้เกิดนิ่วขึ้นได้
อาการแสดงของนิ่วในถุงน้ำดี
          ในระยะแรกที่เป็นนิ่วจะไม่มีอาการผิดปรกติอะไรแสดงให้ทราบเลย แต่ถุงน้ำดีจะเริ่มมีการอักเสบ เมื่ออักเสบไปเรื่อยๆ ทำให้มีอาการท้องอืด แน่นท้อง ท้องเฟ้อ ซึ่งทำให้เข้าใจว่าเป็นโรคเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร เช่น โรคกระเพาะอาหาร หรืออาหารไม่ย่อย เมื่อมีการอักเสบมากขึ้นและเฉียบพลัน อาการต่างๆ ที่อาจมีได้คือ มีไข้ถึงหนาวสั่น ปวดท้องหรือจุกแน่นบริเวณลิ้นปี่หรือชายโครงขวา เมื่อกดจะรู้สึกเจ็บ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และมีดีซ่านร่วมด้วย อาการปวดเช่นนี้อาจจะเคยเป็นมาก่อน แต่ไม่รุนแรงมากนักและหายได้เอง เมื่อมีการอักเสบมากขึ้นอาการปวดจะมากตามไปด้วย
          ภาวะแทรกซ้อนของนิ่วในถุงน้ำดีคือ นิ่วอาจไปอุดตันส่วนหนึ่งส่วนใดของท่อน้ำดี ทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ ซึ่งจะทำให้มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้หนาวสั่น ตัวเหลือง ตาเหลือง เพราะน้ำดีไหลลงสู่ลำไส้เล็กไม่ได้
การรักษา
          ถ้าตรวจพบว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีและยังไม่แสดงอาการ แพทย์อาจจะเฝ้าระวังอาการและแนะนำให้ระวังเรื่องอาหาร งดอาหารที่มีไขมันสูง เพราะเมื่อกินอาหารที่มีไขมัน น้ำดีที่หลั่งแล้วไม่สามารถไหลออกมาได้ จะทำให้มีอาการปวดรุนแรงมากขึ้น ผู้ป่วยโรคนี้มักมีอาการท้องผูกและท้องอืดร่วมด้วย อาหารที่กินจึงควรเป็นอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย มีใยอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ ควรเป็นอาหารที่มีไขมันต่ำ หลีกเลี่ยงผักและผลไม้ที่ทำให้ท้องอืด เช่น สะตอ กะหล่ำปลี ขนุน ฝรั่ง และดื่มน้ำมากๆ ก้อนนิ่วอาจจะหลุดออกมาพร้อมปัสสาวะได้ ถ้าอ้วนหรือมีน้ำหนักเกินมาตรฐานควรลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลัง กายร่วมด้วย
         
การป้องกันไม่ให้เกิดนิ่ว 
          เนื่องจากนิ่วในถุงน้ำดีมักเกิดกับคนอ้วนซึ่งมักกินอาหารที่มีไขมันสูง ขณะเดียวกันไขมัน (คอเลสเตอรอล) ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำดี และนิ่วก็มีส่วนประกอบเป็นไขมันรวมอยู่ด้วย จึงต้องควบคุมไขมัน ซึ่งไขมันที่ร่างกายได้รับมาจาก 2 แหล่ง คือ
         1. จากภายในร่างกาย คือ การสร้างของตับ
         2. จากภายนอก คือ จากอาหารที่กิน
          เรายังไม่สามารถควบคุมไขมันที่สร้างจากภายในร่างกายได้ แต่ไขมันภายนอกที่มาจากอาหารเป็นสิ่งซึ่งสามารถควบคุมได้ โดยกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งมีในเนื้อสัตว์ทุกชนิดในปริมาณมากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและอวัยวะของสัตว์ เช่น หนังเป็ด หนังไก่ เครื่องในสัตว์ทุกชนิด เนื้อสัตว์ติดมัน ติดหนัง มีคอเลสเตอรอลสูง ควรหลีกเลี่ยงหรือกินในปริมาณน้อยๆ โดยเลือกกินเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ติดหนัง เช่น เนื้ออกไก่ เนื้อหมูแดง ปลา เป็นต้น นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารทอดที่อมน้ำมัน อาหารใส่กะทิ รวมทั้งขนมหวานหรืออาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันได้ถ้ากินในปริมาณมาก
          การควบคุมอาหารดัง กล่าวนอกจากจะป้องกันไม่ให้เกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดีแล้ว ยังช่วยไม่ให้อ้วนอีกด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคนิ่ว ขณะเดียวกันถ้าอ้วนควรลดน้ำหนักร่วมด้วย โดยออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30-45 นาที
นิ่วในถุงน้ำดี 
เกิดจากกระบวนการที่ตับ อันเป็นอวัยวะสร้างน้ำดี ซึ่งจะส่งไปเก็บที่ถุงน้ำดี เมื่อต้องการไปย่อยไขมัน ถุงน้ำดีก็บีบตัวส่งน้ำดีไปตามท่อน้ำดีเข้าสู่ลำไส้และย่อยอาหาร เมื่อน้ำในน้ำดีลดลงก็ทำให้เกิดนิ่ว นิ่วในถุงน้ำดีอาจจะหลุดและอุดทางเดินน้ำดี ทำให้เกิดตัวเหลืองตาเหลือง ถุงน้ำดีอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ
   
อาการนิ่วในถุงน้ำดี จะปัสสาวะกะปริบกะปรอยและปวดท้องน้อยเช่นเดียวกัน แต่มีลักษณะหนาวๆร้อนๆสูงเรื่อยขึ้นไปถึงไหล่ขวา ใบหน้าจะเหลือง อาการอย่างนี้ก่อให้เกิดโรคดีซ่านได้อีกด้วยหากรักษาไม่ถูกวิธี

 
สมุนไพรรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี
ให้นำเอาผิวไม้ไผ่ป่า  1  กำมือ,  รากหญ้าคา  1  กำมือ,  เหง้าสับปะรด  1  กำมือ, สารส้มก้อนเท่าหัวแม่มือ ใส่หม้อเติมน้ำท่วมยา ต้มให้เดือด ดื่มต่างน้ำ
  
สำหรับนิ่วในถุงน้ำดีนี้ ก่อนกินยาหม้อชุดที่กล่าวมา ให้ทำยาต่อไปนี้กินก่อน ให้เอาหัวหอมปอกแล้ว 1 กำมือ เกลือเม็ด 1 กำมือ นำเอาตัวยาทั้งสองมาตำรวมกันให้แหลกละเอียด แล้วใส่น้ำพอสุกเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำให้ได้ 1 ถ้วยชาจีน ให้คนไข้กิน ก่อนต้มยาหม้อในรายการข้างต้นกินต่างน้ำ   แล้วให้เอากากยาหัวหอมและเกลือที่คั้นแล้วนั้น มาโปะไว้ที่ใต้สะดือ ก็จะทำให้หายเร็วขึ้น
การรักษาตามแนวธรรมชาติบำบัด
ต่อไปนี้ เป็นการแนะนำวิธีการใช้ "น้ำแอปเปิ้ลเข้มข้น รักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี" โดยการทดลองจากผู้ป่วย
1,000 คน จึงมิต้องทำการผ่าตัด เป็นการลดการเจ็บปวดจากการผ่าตัด และเป็นการลดเงินค่าใช้จ่าย
หากคุณมิได้มีโรคนิ่วในถุงน้ำดี แล้วมาทำการบำบัดฯ ก็ไม่มีอันตรายใดๆ นายแพทย์ท่านนี้และคนใน
ครอบครัวได้พิสูจน์แล้ว จึงได้นำออกมาเผยแพร่ด้วยความมั่นใจ
นิ่วไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก หากใหญ่จะประมาณเท่าลูกสตอเบอร์รี่ หากเล็กก็เท่าเม็ดทราย หากใช้วิธีการนี้ล้วน
สามารถขับออกมาได้ทั้งนั้น

หากว่าครั้งแรกคุณขับออกมาจำนวนมาก ต้องใช้เวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ จึงจะสามารถทำการบำบัดใหม่
หากว่าครั้งแรกไม่อาจขับออกมา ก็หวังว่าคุณจะทดลองทำใหม่อีกครั้ง เพราะอาจมีการทำผิดพลาดใน
ขั้นตอนต่างๆ และควรทำทุกๆ ปีควรจะทำการบำบัดหนึ่งครั้ง

ขั้นตอนการบำบัด

วันที่ 1 - 5
- ใช้น้ำแอปเปิ้ลเข้มข้น 100 % (บริสุทธิ์) ใน 1 วันดื่ม 4 ครั้ง ครั้งละ 250  ซี.ซี. เวลาเช้าก่อนอาหาร
ช่วงระหว่างมื้อเช้ากับมื้อเที่ยง ช่วงระหว่างมื้อเที่ยงถึงมื้อเย็น ช่วงก่อนนอน (เป็นช่วงที่ท้องกำลังว่าง)
-
ต้องดื่มติดต่อกันทั้ง 5 วัน
-
น้ำแอปเปิ้ลเข้มข้นช่วยให้นิ่วในถุงน้ำดีแตกออก (ทำให้มีขนาดเล็กลง) ซึ่งจะช่วยให้ขับออกมาได้ง่าย

วันที่  6
1) ตอนบ่าย 1 โมงเป็นต้นไป ห้ามรับประทานอาหารใดๆ ไม่ให้ทานมื้อเย็น ดื่มได้แค่น้ำเปล่า ส่วนน้ำแอปเปิ้ลเข้มข้นก็ไม่ต้องดื่มแล้ว
2) ตอน 6 โมงเย็น ทานน้ำดีเกลือ (Epsom SALT / Magmesium Sulphate) โดยนำดีเกลือ
10 มิลลิกรัม.ผสมน้ำอุ่น
250  ซี.ซี. (ขนาดเท่าถ้วยทานข้าวหนึ่งถ้วย)
3) ตอน ๒ ทุ่ม ดื่มน้ำดีเกลืออีกครั้ง (ปริมาณเท่าเดิม)
4) ตอน 4 ทุ่ม ดื่มน้ำมะนาว 250  ซี.ซี. + น้ำมันมะกอก (หรือน้ำมันพืช) 250  ซี.ซี. ผสมให้เข้าเป็น
เนื้อเดียวกัน (หากไม่กล้าดื่มควรใช้หลอดดูดดื่มแทน)
-
การผสมน้ำมะนาวกับน้ำมันมะกอก ควรใช้ 2 ถ้วยเทไปเทมา ผสมให้เข้ากัน
-
เมื่อดื่มน้ำมะนาวผสมกับน้ำมันมะกอกแล้ว ต้องทำให้กระเพาะถึงตับด้านขวาของลำตัวร้อน
โดยการนอนตะแคงลำตัวไปตัวไปทางซ้าย ไม่ให้นอนราบ แล้วใช้เครื่องเป่าผม เป่าลมร้อนอย่างน้อย
15 นาที โดยไม่ต้องมีเสื้อผ้าปิด ต้องทำให้ผิวหนังร้อนในระดับที่ร่างกายรับได้ เพื่อช่วยให้ถุงน้ำดี
เปิดกว้างขึ้น ทำให้นิ่วออกมาได้
-
น้ำมะนาวช่วยให้ท่อส่งน้ำดีจากถุงน้ำดีนุ่ม จึงช่วยให้นิ่งออกมาได้สะดวก ส่วนน้ำมันจะช่วยให้เรียก
น้ำย่อยจากถุงน้ำดี ให้ออกมาจำนวนมาก ทำให้นิ่วออกมามากด้วย

วันที่ 7
ในตอนเช้าเมื่อเข้าห้องน้ำก็จะสามารถขับนิ่วออกมา โดยดูได้จาก "ส่วนที่เป็นสีเขียว" ที่ลอยขึ้นมาในน้ำ
ชักโครก นั่นก็คือ "นิ่วในถุงน้ำดี" นั่นเอง หากมีสีขาวที่ลอยขึ้นมานั่นก็คือ "ไขมัน" ส่วนบางคนมีสีดำ
ลอยขึ้นมาแสดงว่าเคยมีเลือดออกภายในกระเพาะมาก่อน
       
การรักษานิ่วในถุงน้ำดี โดยแพทย์แผนปัจจุบัน
แพทย์บางคนเมื่อพบว่าผู้ป่วยเป็นนิ่วจะผ่าตัดเอานิ่วออกเลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโรคอื่นๆ ที่เป็นอยู่และฐานะทางครอบครัวด้วย การผ่าตัดขณะที่ยังไม่มีอาการเป็นการเสี่ยงน้อยที่สุด แต่ถ้ามีอาการแล้วจึงทำการผ่าตัดจะเป็นการเสี่ยงมาก และการปล่อยให้เป็นนิ่วในระยะเวลานานๆ มีการอักเสบของถุงน้ำดีโดยไม่มีอาการอาจจะกลายเป็นมะเร็งได้
          ในปัจจุบันการรักษาโรคนิ่วทำได้ด้วยการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก ซึ่งทำได้ 2 วิธี คือ วางยาสลบแล้วเปิดช่องท้องตัดเอาถุงน้ำดีออก ส่วนอีกวิธีหนึ่งซึ่งค่อนข้างใหม่คือการฉีดยาชาแล้วเจาะช่องท้อง ใส่กล้องลงไปผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก ข้อดีของวิธีนี้คือแผลเล็ก อยู่โรงพยาบาลไม่นาน
          การรักษาทางยาใช้ได้เฉพาะนิ่วที่ไม่มีหินปูน (แคลเซียม) เกาะ ถุงน้ำดียังทำงานได้ตามปกติ และต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปีจึงจะละลายนิ่วได้ ยามีราคาแพงและอาจจะกลับเป็นใหม่ได้อีกหลังหยุดยา

อาการของนิ่วในถึงน้ำด
เนื่องจากปัญหาของนิ่วคือทำให้เกิดการอุดตันภายในท่อน้ำดี ดังนั้นอาจทำให้เกิดความดันภายในน้ำดีสูง และทำให้เกิดอาการปวดท้องได้

ซึ่งลักษณะเฉพาะของอาการปวดท้องจากนิ่วจะมีลักษณะดังนี้
ปวดท้อง ที่ตำแหน่งชายโครงด้านขวา และค่อยๆปวดมากขึ้นและปวดคงที่นานตั้งแต่ 30 นาทีจนเป็นชั่วโมงขึ้นไป
ปวดท้องร้าวไปหลัง +สะบักด้านขวา     
คลื่นไส้อาเจียนและให้ไปพบแพทย์ทันทีที่ปวดท้องนานกว่า 5 ชั่วโมง   
มีไข้ หนาวสั่น     
ตาเหลืองตัวเหลือง     
อุจจาระสีซีด  
ให้บอกแพทย์ทุกครั้งถ้ามีประวัติเคยพบนิ่วในถุงน้ำดีด้วย

การวินิจฉัยนิ่วในถุงน้ำดี
บ่อยครั้ง ที่พบนิ่วโดยบังเอิญยังไม่มีอาการ ถ้าไม่มีอาการก็ไม่ต้องผ่าตัดเอานิ่วออก พบว่ามีส่วนน้อยมากๆที่พบนิ่ว แล้วต่อมาเกิดเป็นถุงน้ำดีอักเสบ ถ้าไปพบแพทย์ มีลักษณะอาการปวดท้องดังกล่าว ถ้าสงสัยว่าเป็นนิ่วแพทย์จะทำการอัลตราซาวน์ ซึ่งเป็นวิธีง่ายในการดูว่ามีนิ่วหรือไม่
 การอัลตราซาวน์ ์เป็นวิธีการที่จะสามารถดูนิ่ว ดูลักษณะของตับ และดูอวัยวะใกล้เคียงอื่นๆ ถ้าพบนิ่วก็จะเห็นจากอัลตราซาวน์          นอกเหนือจากการทำอัลตราซาวน์แล้วก็จะมีวิธีการวินิจฉัยอื่นๆอีกเช่น
เอ๊กซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ CT scan ก็สามารถเห็นนิ่วได้   
Cholescintigraphy หรือ HIDA scan เป็นวิธีที่ฉีดสีเข้าไปทางเส้นเลือด สีนี้จะถูกขับออกทางน้ำดี ดังนั้นเราจะเห็นลักษณะของท่อน้ำดีว่ามีการอุดกั้นหรือไม่
Endoscopic retrograde cholangiopancreaticography หรือ ERCP เป็นวิธีการส่องกล้องติดหลอดไฟขนาดเล็ก แล้วเข้าไปดูภายในท่อน้ำดี ถ้าพบนิ่วก็จะใช้ตะกร้าขนาดเล็กดึงนิ่วออกมาได้
การเจาะเลือด เพื่อดูว่ามีการติดเชื้อ หรือดูว่ามีการอุดกั้นภายในท่อน้ำดี หรือดูว่ามีตับอักเสบหรือไม่

การรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี
ถ้าพบว่ามีนิ่ว แต่ไม่มีอาการ ก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด แต่ถ้ามีอาการปวดท้องบ่อยๆ แพทย์ก็อาจจะแนะนำให้ตัดถุงน้ำดี การผ่าตัดถุงน้ำดีออกจึงเป็นวิธีการรักษา   โชคดี ที่นิ่วไม่ใช่อวัยวะสำคัญต่อการดำรงชีวิต แม้ตัดออก ก็ไม่กระทบต่อการสร้างน้ำดี ตับยังสามารถสร้างน้ำดีได้ปกติ

No comments:

Post a Comment